Sunday, September 5, 2010

“เดี่ยว” สุริยนต์ อรุณวัฒนกูล แบ่งเงินออมให้ตัวเอง แบ่งเบาภาระทางบ้าน

"รายได้ในแต่ละเดือนไม่ คงที่ ไม่แน่นอน แต่ถ้าได้มา 100% จะแบ่งออกมา 30% เพื่อเก็บสะสมไว้ในบัญชีฝากประจำ และอีก 40% เป็นค่าใช้จ่ายภายในบ้านแต่ละเดือน ซึ่งผมจะมีหน้าที่รับผิดชอบหมด เพราะผมถือว่าผมโตแล้วควรแบ่งเบาภาระของทางบ้าน และทดแทนบุญคุณของคุณพ่อคุณแม่ด้วย"

คอลัมน์ “เจาะพอร์ตคนดัง” ฉบับนี้เราได้นำตัวพิธีกรหนุ่มอย่าง “เดี่ยว - สุริยนต์ อรุณวัฒนกูล” ที่ตอนนี้ได้ปิดตำนานคู่รักวงการบันเทิงไปอีกคู่แล้วกับสาว “รถเมล์ - คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์” แต่มาในวันนี้ “หนุ่มเดี่ยว” ไม่ได้มาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวดังกล่าวที่เกิดขึ้น แต่จะมาเผยเคล็ดลับด้านการออมเงินในแบบฉบับของตัวเอง ที่ใคร ๆ ก็สามารถทำตามกันได้จ้า...

“เดี่ยว” เริ่มบอกว่า จากภาวะเศรษฐกิจในบ้านเราตอนนี้มีการ แข่งขันกันสูงมาก ยิ่งถ้าเราคิดจะลงทุนทำอะไรก็ตามที่แหวกแนวหรือแตกต่างจากที่ตลาดมีอยู่ก็คง เป็นเรื่องที่ยากในการหาตลาด แต่ถ้าใครมีธุรกิจที่ทำอยู่แล้วก็ต้องมีการพัฒนาให้สินค้าของเรามีคุณภาพมาก ยิ่งขึ้น เพราะสินค้าต่าง ๆ ที่มีในตลาดส่วนใหญ่แล้วจะมีซ้ำ ๆ กัน ซึ่งอาจจะมีเหมือน ๆ กันทั่วโลกก็ว่าได้ ดังนั้นเราควรพัฒนาของที่มีอยู่เดิมให้ดีและมีคุณภาพมากขึ้นจะดีกว่า

“ส่วนตัวแล้วผมก็อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เพราะว่าผมอยู่ในวงการบันเทิงมันไม่ค่อยมั่นคง แต่ผมก็พยายามทำงานให้มีเงินก้อนพอเพื่อจะมาทำธุรกิจได้ โดยธุรกิจที่ผมคิดไว้มีอยู่ 3 อย่างที่อยากทำ อย่างแรกอยากทำร้านเสื้อผ้า สองเป็นร้านรองเท้าแนวสปอต แต่เป็นแนวแฟชั่น ที่เป็นแบรนด์ของเราเอง และสุดท้ายเป็นเรื่องของอาหารและเครื่องดื่มสุขภาพ สาเหตุที่อยากเปิดตรงนี้เพราะคุณแม่เป็นคนชอบทำให้ทานที่บ้าน และอร่อยเลยคิดว่าอยากที่จะเปิด และคิดว่าน่าจะได้เปิด แต่ตอนนี้ต้องขอออมเงินสักก้อนก่อน”

สำหรับรายได้ในปัจจุบัน “เดี่ยว” บอกว่า รายได้ในแต่ละเดือนไม่คงที่ ไม่แน่นอน แต่ถ้าได้มา 100% จะแบ่งออกมา 30% เพื่อเก็บสะสมไว้ในบัญชีฝากประจำ และอีก 40% เป็นค่าใช้จ่ายภายในบ้านแต่ละเดือน ซึ่งผมจะมีหน้าที่รับผิดชอบหมด เพราะผมถือว่าผมโตแล้วควรแบ่งเบาภาระของทางบ้าน และทดแทนบุญคุณของคุณพ่อคุณแม่ด้วย


“การออมเงินเป็นสิ่งสำคัญ และเทคนิคในการออมของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป แต่ถ้าใครมีเงินออมก็จะสร้างความมั่นใจและสร้างความมั่นคงให้กับเราได้ใน อนาคต เพราะเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินเราก็จะไม่กลัว เพราะเราวางแผนเตรียมพร้อมไว้แล้ว”

ปัจจุบัน “เดี่ยว” มีงานในวงการบันเทิง ด้วยการเป็นพิธีกร รายการ “สโมสรสุขภาพ” ทางช่อง 9 เช่นกัน ตอนเช้า 8.00 น. ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ นอกจากนี้มีละครเรื่อง “เขาชื่อกานต์” ออกอากาศทางช่อง Thai TPBS และละครเรื่อง “ปลาไหลป้ายแดง” ทางช่อง 3 ซึ่งเรื่องหลังนี้กำลังอยู่ในระหว่างการถ่ายทำอยู่

“เดี่ยว” มีหลักและแนวคิดในการทำงานให้ประสบความสำเร็จคือ ต้องทำในสิ่งที่ชอบ ทำในสิ่งที่รัก และจะสามารถทำได้ด้วย และถือว่าผมเป็นคนที่โชคดีได้ทำงานในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ เวลาทำงานจึงไม่ค่อยคิดว่าเราทำงานก็จะสนุกไปงานนั้น ๆ ที่ได้ทำ นอกจากนี้แล้วต้องรับฟังเสียงติชม วิพากษ์วิจารณ์ด้วยเพื่อนำไปพัฒนาในงานของเราดียิ่ง ๆ ขึ้นไป รวมถึงต้องมีความตรงต่อเวลา รับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด

เมื่อว่างจากการทำงาน “เดี่ยว” มักจะชอบอยู่แต่กับบ้าน ดูหนัง เพราะส่วนตัวแล้วจะไม่ชอบไปไหนที่มีผู้คนเยอะ ๆ เพราะจะรู้สึกว่าอึดอัด และอีกอย่างเราทำงานในวงการบันเทิงก็ได้เจอผู้คนเยอะแยะมากมายอยู่แล้ว ดังนั้น เมื่อว่างจากการทำงานก็อยากที่จะอยู่แบบเงียบ ๆ สงบ ๆ บ้าง และได้อยู่กับครอบครัวด้วย นอกจากนี้ก็มีบ้างที่ออกไปเที่ยวตามต่างจังหวัด แต่มีหนึ่งที่ ๆ ไปบ่อยที่สุดคือพุทธมณฑล ชอบไปให้อาหารปลา และที่สำคัญใกล้กับบ้านของผมมาก

สุดท้าย “เดี่ยว” บอกว่า ไลฟ์สไตส์การออมเงินของแต่ละคนแตกต่างกันออกไปแล้วแต่ความถนัดของแต่ละตัว บุคคล แต่ถ้าใครคิดที่จะออมเงินไม่ว่ารูปแบบไหนก็ตามถือว่าเป็นเรื่องที่ดีทั้ง สิ้น เพราะการออมเงินก็จะทำให้เราไม่ประมาทกับอนาคตของตัวเอง นอกจากนี้แล้วใครที่มีธุรกิจเป็นของตัวเองในช่วงนี้ ถ้าคิดที่จะขยายกิจการก็ต้องระวังไว้บ้างเพราะความไม่แน่นอนในอนาคตด้าน เศรษฐกิจอาจจะส่งผลกระทบได้ถ้ามีปัญหาต่าง ๆ เข้ามาอีก ดังนั้นการออมเงินจึงเป็นสิ่งที่สำคัญไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานะอะไรก็ตาม ยิ่งอย่างผมแล้วทำงานในวงการบันเทิงไม่มีความมั่นคง การแข่งขันก็มีสูงทุกวันนักแสดงเกิดใหม่มีขึ้นทุกวัน ดังนั้นผมจึงต้องออมเงินไว้ในเหตุการณ์ข้างหน้าด้วย

ชื่อ - นามสกุล สุริยนต์ อรุณวัฒนกูล (เดี่ยว)
วันเดือนปีเกิด 26 สิงหาคม 2525
การศึกษา ปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์
มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ ประสานมิตร (มสว.)
งานปัจจุบัน พิธีกร รายการ “สโมสรสุขภาพ”
ละครเรื่อง “เขาชื่อกานต์”, “ปลาไหลป้ายแดง”

for more Click here

No comments: