Monday, December 27, 2010

อังกฤษอนุญาตนักข่าวใช้"ทวิตเตอร์"ในศาล

       กระทรวงยุติธรรมสหราชอาณาจักร ประกาศอนุญาตให้สื่อมวลชนใช้งานบริการรับส่งข้อความกล้องวงจรปิดสั้นยอดฮิตนามทวิตเตอร์ (Twitter) ในศาลได้ ถือเป็นมิติใหม่ของกระบวนการยุติธรรมสากลที่จากเดิมมักต้องงดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดในห้องพิจารณาคดี 
       
       ความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะทวิตเตอร์นั้นเป็นการสื่อสารด้วยข้อความ จึงไม่เกิดเสียงที่รบกวนต่อการพิจารณาคดี โดยทางการอังกฤษเชื่อว่าการอนุญาตให้ใช้ทวิตเตอร์ในศาลเป็นเรื่องเหมาะสม เพราะจะทำให้การใช้อุปกรณ์ทันสมัยเพื่อการรายงานสถานการณ์แบบต่อเนื่องตลอดเกิดขึ้นได้ในศาล เหมือนที่เกิดขึ้นได้ในทุกพื้นที่ทั่วโลก
       
       การประกาศอนุญาตครั้งนี้ไม่ได้แปลว่าผู้สื่อข่าวทุกคนจะสามารถใช้ทวิตเตอร์ได้เสรีตามใจชอบ แต่จะต้องผ่านกระบวนการขออนุญาตด้วยการกรอกแบบฟอร์มขอใช้ทวิตเตอร์ จากนั้นจะมีการพิจารณาอนุญาตเป็นรายบุคคล
       
       ศาลอังกฤษย้ำว่า ไม่ใช่ทุกคนที่ขออนุญาตจะได้รับการพิจารณา โดยผู้ที่ไม่ใช่สื่อมวลชนจะไม่ได้รับการอนุญาตให้ใช้งานทวิตเตอร์ และการถ่ายภาพภายในศาลจะยังคงเป็นข้อห้ามที่เคร่งครัดในศาล
       
       อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตว่าการอนุญาตให้ใช้ทวิตเตอร์ในศาลอาจะทำให้เกิดการแทรกแซงกระบวนการบันทึกข้อความภายในศาล โดยสื่อมวลชนบางรายเชื่อว่า นี่อาจเป็นก้าวแรกสู่การอนุญาตให้มีการใช้กล้องวิดีโอในศาลอังกฤษในอนาคต ซึ่งแม้จะมีความเป็นไปได้แต่ก็ยังค้านกับแนวทางที่ศาลอังกฤษประกาศชัดเจนในขณะนี้
       
       ทวิตเตอร์เป็นบริการรับส่งข้อความสั้นที่เริ่มเปิดให้บริการในปี 2006 ยอดผู้ใช้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยมากกว่า 370,000 รายต่อวัน โดยราว 16% ใช้งานทวิตเตอร์บนโทรศัพท์มือถือผ่านแอปพลิเคชันอย่าง TweetDeck หรืออื่นๆ เพื่อบอกเล่าและรับฟังเพื่อนฝูงและกลุ่มผู้ติดตามว่ากำลังคิดหรือทำอะไรอยู่ในขณะนั้น
       
       ความเคลื่อนไหวล่าสุดของทวิตเตอร์คือการให้ผู้ใช้ทวิตเตอร์สามารถเชื่อมชื่อบัญชีทวิตเตอร์และบริการปิง (เครือข่ายสังคมออนไลน์ด้านเพลงของแอปเปิล) เข้าด้วยกัน เพื่อให้ข้อความข้อมูลเพลง ภาพ หรือวิดีโอที่ผู้ใช้โพสต์ไว้บนปิง ไปปรากฏบนทวิตเตอร์ได้แบบอัตโนมัติ ถือเป็นการเปิดทางสะดวกแก่ศิลปินที่สามารถอัปเดทข้อมูลแก่ผู้ติดตามหรือ Follower ได้แบบทันใจ
       
       ขณะเดียวกัน ทวิตเตอร์ประกาศปรับโฉมหน้าเว็บไซต์ใหม่ครั้งแรกในรอบ 4 ปีที่เปิดให้บริการเมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา บนจุดประสงค์เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถอ่านข้อความทวีตได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น ท่ามกลางนักวิเคราะห์ที่เชื่อจะทำให้ทวิตเตอร์สามารถสร้างรายได้จากการโฆษณาออนไลน์เพิ่มขึ้นด้วย

No comments: