Saturday, June 5, 2010

ธรรมะโอสถ ยาชั้นเลิศของ เก๋ ชลลดา

ถ้าในวงการบันเทิง “เก๋-ชลลดา เมฆราตรี” คือนางแบบ และเจ้าแม่อีเวนต์ดีๆคนหนึ่ง หากแต่ในวงการธุรกิจเธอคือเจ้าของธุรกิจด้านความงาม (immagini Beauty Clinic) ร้านเพชร (พีรดาเจมส์) ซึ่งกำลังไปได้สวย แต่เมื่อช่วงการชุมนุมปิดแยกราชประสงค์ของคนเสื้อแดง และมีการเผาห้างที่เซ็นทรัลเวิลด์ ธุรกิจของนางแบบสาวคนนี้ เรียกว่าเจ๊งระเนระนาด ภาระที่เพิ่มขึ้นมีมูลค่านับสิบล้าน และบางอย่างเกิดขึ้นกับชีวิตเธอ จึงทำให้การพูดคุย เรื่องราว M-Light ของเธอในวันนี้ต้องพึ่งธรรมะ และเธอยืนยันว่า ธรรมะธรรมะโอสถ” คือยาชั้นเลิศที่บำบัดจิตใจได้ดีและเร็วที่สุดในเวลานี้

เก๋ ชลลดา เมฆราตรี

สภาพร่างกายที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาล สภาพจิตใจที่เพิ่งผ่านสถานการณ์แย่ๆในชีวิต ทำให้วันนี้เราเจอเก๋ในสภาพที่สมบูรณ์น้อยกว่าทุกๆครั้ง ในงานเปิดตัวของทรู ที่มีระบบทีวี HD ในเมืองไทยครั้งแรก และคืองานอีเวนต์งานแรกของเก๋ หลังจากที่ กว่า 20 วันที่ต้องนอนอยู่แต่ในบ้านช่วงภาวะบ้านเมืองเข้าขั้นวิกฤต แต่เธอขอปฏิเสธว่าชีวิตไม่ได้อ่อนแอ แต่ที่ต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะมีโรคประจำตัวอยู่แล้วคือไมเกรน

1.นอนดูบ้านเมืองโกลาหลที่โรงพยาบาล

ในวันก่อนเพลิงไหม้ เก๋นอนพักที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ด้วยโรคประจำตัวอยู่แล้ว ก่อนที่ร้านที่เซ็นทรัลเวิลด์จะถูกเผา เธอเผยว่าอาการเครียด หลังมีข่าวออกมา ทำให้มีข่าวว่าช็อกเมื่อร้านที่ถูกไฟไหม้ แต่เธอยืนยันว่าเพียงแต่ตกใจกับกระแสข่าวเท่านั้น ไม่ได้ช็อกกับเหตุการณ์ เพราะแท้ที่จริงแล้ว ร้านไม่ได้ถูกเผา แต่ที่เสียหายคือยอดขายและการให้บริการที่ขาดหายไปเกือบ 2 เดือน ซึ่งทำให้ครอบครัวของเธอถึงกับเกิดอาการเครียดมากทีเดียว

“ถ้าถามตอนนี้ เก๋โอเคแล้วทำใจได้แล้วค่ะ เข้มแข็ง ก่อนทีจะฟื้นฟูสภาพธุรกิจก็ต้องฟื้นฟูสภาพจิตใจก่อน ในครอบครัวก่อน คุณแม่กับน้องชาย เก๋ว่ามันเป็นอาการช็อกมากกว่า ก่อนหน้านี้เรามีโอกาสได้ไปทำบุญกับเซ็นทรัลเวิลด์ ไปเห็นสภาพของจริงจะยิ่งหดหู่แล้วแม่เขาไปดูสภาพตึก แล้วแม่พูดมาคำหนึ่งว่า เข้าใจแล้วว่า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นอย่างไร บ้านเมืองไม่สงบเป็นอย่างไร เราอยู่ข้างนอก เหมือนมีมีทะเลาะกันในหนัง มันแบบนั้นเลยเพียงแต่ว่านี่เรื่องจริง”

“เก๋ งงอยู่ประมาณ 2 วัน ดูภาพจากทีวี ก่อนมีเหตุวินาศภัยเราก็หดหู่อยู่แล้ว เก๋เชื่อว่าคนไทยทุกคนหดหู่ เราทะเลาะกันไม่รักกัน เราเคยเฟลนด์ลี่ เมืองไทยอย่างไรเราก็อยู่กันได้ คนไทยอยู่ได้สบายแฮปปี้กันหมด เราเคยมีความสุขทุกเทศกาล สยามเมืองยิ้มจริงๆ แต่นี่มันอะไร เพื่อนเราคนต่างชาติเยอะ เขาก็มองว่าบ้านเราน่าอยู่มาก มนุษย์สัมพันธ์ก็ดี มาเจอแบบนี้ เราก็ตกใจค่ะ เสียดายเหมือนเราสูญเสียเพื่อนที่เราสนิท เราไม่รักกันแบบเดิม ไม่เคยคิดจะมีการเผา ร้ายแรงขั้นนี้ เราอยู่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ได้ยินเสียงปืนระเบิดได้ยินตลอด เขม่าๆไฟ หมอพยาบาลทุกคนอยู่โรงพยาบาลตลอด ห้องข้างๆมีแขกขาวมารักษาตัว เขาตกใจว่าบ้านเราเป็นปาเลสไตน์ไปแล้วเหรอ เขาก็มาคุยกับเราว่ามันเป็นแบบเกาหลีเหนือกับใต้มั้ย เราก็บอกไม่ใช่หรอกค่ะ”

2.ธุรกิจพังยับเยิน

เนื่องจากธุรกิจของเธอส่วนใหญ่ ตั้งอยู่ในย่านราชประสงค์ ทั้งเกษรพลาซ่า เซ็นทรัลเวิลด์ สยามสแควร์ และออลซีซั่น ถ.วิทยุ คลินิกความงามที่เคยมีคนเข้า เธอบอกว่าเจอบ้านเมืองแบบนี้ใครจะมารักสวยรักงาม

“เก๋โดนโดยตรงเลย อยู่ตั้งแต่ถนนราชประสงค์ ออลซีซั่นเพลส แถวคอนราดตอนแรกคิดว่าไม่โดน พอประกาศเคอร์ฟิว สั่งปิดถนนเหมือนกันจบเลย ตรงเกษรฯ เซ็นทรัลเวิลด์ สยามสแควร์ ครบทุกสาขาเลยค่ะ ก็มีที่สาขาบางนาที่ยังโอเค ที่ไม่โดนอะไร แต่ว่าปัญหาบ้านเมืองแบบนี้คนก็ไม่รักสวยรักงาม เศรษฐกิจก็หยุดชะงักไปเลย 50 วันเต็มไม่มีรายรับเลย ”

“เก๋ว่าทางธุรกิจหนักสุดในชีวิตก็ว่าได้เลยค่ะ เราไม่เคย หยุดชะงักภาพนิ่งไม่มีการเคลื่อนไหวขนาดนี้ บัญชีออมทรัพย์นี่ไม่มีค่าอะไรเลย มีแต่รายจ่ายเราใช้สตางค์ที่เราสะสมมา กินอยู่ ค่าน้ำ ค่าไฟ ป่วยไข้ เราไม่สบายอีก แต่เรามีประกัน มันเยอะมาก โชคดีที่เราใช้ชีวิตไม่ประมาท มีเงินออมอยู่เรามีดูแล มีสวัสดิการ มีประกันสังคม มีน้องที่บ้านคลอดน้อง ไม่สบายอีก ช่วงนี้โครงการเยอะเลย รายจ่ายเยอะทีเดียวค่ะ ต้องระมัดระวังรอบคอบ”..เก๋ทิ้งท้ายกับการแก้ปัญหาในชีวิตที่ผ่านมา

3.“ธรรมะโอสถ”ยาทางใจใช้แก้ทุกข์

ก่อนจะเข้าเรื่องธรรมะ เก๋ขอบคุณเพื่อนที่แสนดี ที่เธอเรียกเขาสองคนว่า “กัลยาณมิตร” อย่าง “ตุ๊ก ชนกวนันท์” และ “บ๊วย เชษฐวุฒิ” เพื่อนคู่สามีภรรยารุ่นพี่ ที่ชักชวนเธอเข้าส่วงการธรรมะจนเข้าถึงบางอย่างที่ทำให้สภาพจิตใจเยียวยาตัว เองเร็วขึ้น

“ใช้ธรรมะโอสถออกฤทธิ์แรงมากๆ ต้องขอบคุณกัลยาณมิตรชั้นเยี่ยมของเก๋คือ พี่ตุ๊ก พี่บ๊วย ที่ชวนไปวัด อย่างที่บอกว่าไตรลักษณ์ใช้ได้จริง ไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่มีอะไรตั้งอยู่ พอเพียง เนี่ยมันมีอยู่จริง แล้วบอกเลยว่าตั้งแต่เกิดเรื่อง สะกดคำว่า “พอ” ได้ชัดเจนมากเลยสำหรับเก๋ ทำอะไรก็ทำแต่พอดี ทำตามกำลังและทำให้มีความสุข แล้วเราก็เริ่มเห็นใจคนใกล้ตัวมากยิ่งขึ้น พี่ๆน้องๆ คนในครอบครัว คนงาน คนขับรถ แม่บ้าน พี่เลี้ยง พนักงานที่ร้าน หมอพยาบาล เราลงเรือลำเดียวกันแล้ว ทุกคนน่ารัก ทุกคนช่วยกัน พายไปด้วยกัน พยายามทำตัวเบาๆ ให้เรือไม่หนัก ลดเงินเดือนก็ได้ ไม่เอาโอที น่ารักมากค่ะ ไปอยู่บ้านเรากลัวเปลืองไฟเรา เราได้มิตรเพิ่มขึ้น ซื้อใจมากๆ ซาบซึ้งมากๆ กระทั่งผู้จัดการส่วนตัวเก๋ เขาก็บอกว่าไม่ต้องให้เงินก็ได้นะตอน นี้ เพราะว่าเดือนนี้ไม่ได้หางานอะไรให้เก๋เลย 20 วันไม่ได้หางานให้เลย น้ำใจมาเยอะมาก ในความเจ็บปวด ท้อแท้ ใต้หมอกเขม่าควันดำๆยังมีแสงสว่าง เล็กน้อยๆเป็นน้ำทิพย์ในใจเรา”

“เราต้องทำใจก่อน บ้านเก๋นี่ทั้งบ้านเลย ทั้งคุณพ่อ คุณแม่ น้องชาย ไปนั่งสมาธิอยู่แล้ว ช่วงนี้ไปบ่อยมากขึ้น พากันไปทั้งบ้านเลย คุณแม่ก็ทำใจไปด้วยบอกว่า พระท่านสอนว่าธรรมโอสถนี่รักษาดีที่สุด ไตรลักษณ์เนี่ย ใช้ได้จริง ร้านเพชร ร้านเลเซอร์อิมแมจินี่ แต่ว่าเลเซอร์สภาพดีมากๆ ลูกค้าตอบรับดีมาก เปิดมาปีหนึ่งลูกค้าเยอะมาก ขยาย 3 สาขาในปีเดียว หมอ พยาบาลที่พูดกันเลยลูกค้าเยอะ วันหนึ่งพูดแต่ว่ามีลูกค้ากี่เคส แต่ตอนนี้เงียบเลย ไม่มีลูกค้าเลย ปิดกิจการอีก 20 วัน หยุดชะงักไปเลย มีรายจ่ายอย่างเดียว มีค่าแพทย์ ซึ่งเขาก็เรียนมา ค่าครองชีพสูง มีหมอประจำอีก 5 ท่าน เดือนๆหนึ่งเป็นแสนเลยทีเดียว ค่าพยาบาลวิชาชีพด้วย เยอะค่ะแต่เราก็ต้องผ่านไปให้ได้”

4.สิ่งเล็กๆที่เรียกว่า “รัก”

แม้เรื่องหัวใจจะมีหนุ่มเข้ามาให้เธอได้เลือกแบบ “พร้อมสรรพ” แต่ภายใต้ความโชคร้าย เก๋ยังเผยว่ายังมีเรื่องราวดีๆเกิดขึ้นในชีวิตเธอมากมาย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นกำลังใจให้เธอที่แสนดียิ่ง เพราะนั่นคือความรักจากคนรอบตัวเธอ

“ในวันแย่ๆ แต่กำลังใจเยอะ ต้องบอกว่าดีใจมากทำงานมาเยอะมาก ทำผลงานมาเยอะนะ ได้ความรักความเอ็นดูเยอะ เดินถนน เข้ามากอด ออกโรงพยาบาล พี่พยาบาล รปภ. คนขายน้ำเต้าหู้หน้าปากซอย ร้านสะดวกซื้อ ธนาคาร แม่ค้าข้างทาง คนแลกคูปองร้านอาหาร ไปซื้อของก็ให้กำลังใจ กินหอยทอดก็มีคุณป้าเดินมาบอกว่าอย่าคิดมานะมันวอดแล้วก็ช่างมัน สร้างใหม่ได้เราไปกินกับเพื่อนสองคน เขาบอกไม่คิดแล้วกัน 50 บาท เราก็ซึ้งใจแต่ก็ให้ไปแล้วขอบคุณแกมากๆ น่ารักมาก เมตตากับเรา อุตส่าห์มาบอก อย่าไปร้องไห้ มีชีวิตรอดดีกว่า เขาห่วง จริงๆเราป่วยอยู่แล้วไง ไม่ได้เครียดหรอก มีผลกระทบด้านจิตใจบ้างแต่ไม่ได้อ่อนแอ ยังมีกำลังใจให้กับคนในบ้านด้วย”

“เก๋ไปอัพบุ๊กแบงค์ ไม่มีรายรับเลยไปเดือนนี้ ไม่มีอะไรเลย ไม่มีรายรับ ปกติถ้ามีเงินเข้าเราไปออมเลย เป็นออมประจำ แต่เดือนนี้ถอนจนหมดเดือนเหลือ 900 บาท ยืนเอ๋ออยู่นานมาก ยายข้างๆบอก เอาน่า ยายเหลือ 45 บาท เขาก็ยังมาปลอบใจเราก็เลยคิดว่าอืม กำลังใจยังมีอยู่นะ”

5.ออมเงินไว้กันตาย

ในสภาพการเงิน เก๋ยอมรับว่า เธอคือคนที่ชัดเจนในเรื่องตัวเลขการเงินและมีหลักการออมที่ชัดเจน เพราฉะนั้นในเรื่องการเงินเธอไม่มีปัญหา และฝากเตือนสติว่าให้ทุกคนเก็บเงินไว้ เพราะในช่วงเวลาคับขันอาจทำให้ชีวิตรอดตายได้

“เก๋บอกเลยตรงนี้นะคะว่า เก๋ชัดเจนเรื่องสตางค์ ตั้งแต่อายุเลย 27 มา เราก็จัดชีวิตตัวเองชัดเจนเลย มีโครงการ ว่าทำงานแบ่งเงินอย่างไร เงินออม เงินลงทุน ใช้จ่ายอย่างไร จะได้ไม่เดือดร้อน เพราะเศรษฐกิจมันเป็นแบบลูกโซ่ ถ้าเศรษฐกิจหยุดชะงัก คนตกงาน การบริโภคไม่เกิดค่ะ กระทบแน่ คนที่เคยกินของเต็มที่ เจอแบบนี้ก็ไม่เกิดการใช้เงิน การทำอะไรก็คิดมากขึ้น กำลังซื้อน้อย กำลังผลิตก็ต่ำ กระทบทุกฝ่าย สุดท้ายมันแย่กันเอง มันเหมือนบูมเมอแรงมาก ขว้างไปยิ่งกลับมาเร็วน่ะเก๋ว่า”...เก๋ลงท้ายการสนทนาทั้งการเมืองและเศรษฐ กิจที่ลิ้งค์กันอยู่ ซึ่งทำให้เธอและคนสังคมไทยต้องร่วมกันแก้ เพื่อทำให้ประเทศขยับไปข้างหน้า

***************************************

ธรรมะไตรลักษณ์ใช้ได้จริง ไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่มีอะไรตั้งอยู่ พอเพียง เนี่ยมันมีอยู่จริง แล้วบอกเลยว่าตั้งแต่เกิดเรื่อง สะกดคำว่า “พอ” ได้ชัดเจนมากเลยสำหรับเก๋ ทำอะไรก็ทำแต่พอดี ทำตามกำลังและทำให้มีความสุข”…. เก๋ ชลลดา เมฆราตรี

ภาพโดย พงศ์ศักดิ์ ขวัญเนตร

No comments: